คือ การดำเนินกิจกรรมซ่อมบำรุงตามกำหนดเวลาก่อนที่หม้อแปลงไฟฟ้าจะเกิดชำรุดเสียหาย ป้องกันการหยุดของเครื่อง จักรโดยฉุกเฉิน สามารถทำได้ด้วยการตรวจสภาพหม้อแปลงไฟฟ้า การทำความสะอาด การทดสอบค่าฉนวนต่าง ๆ
การบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้า ต้องดำเนินการอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสำรวจสภาพหม้อแปลงไฟฟ้า รวมถึงการตรวจสอบและทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกันความเสียหาย เพราะหม้อแปลงไฟฟ้าชำรุดอาจทำให้สายการผลิตต้องหยุด ดังนั้น การบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างถูกต้องมีมาตรฐานต้องกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น
หัวข้อรายการตรวจเช็ค
1. ตัวถังหม้อแปลงไฟฟ้า (Main Tank)
1.1 ตรวจรอยรั่วซึมของน้ำมัน,คราบน้ำมัน
1.2 ตรวจคราบสกปรก,ฝุ่นและขยะที่เกาะติด
1.3 ตรวจดูว่าเกิดสนิมหรือการกัดกร่อนของตัวถัง
2. การรั่วซึมรอบนอกของหม้อแปลงไฟฟ้า
2.1 ตรวจดูปะเก็น/ซีลยางต่างๆ
2.2 ตรวจดูวาล์วถ่ายน้ำมัน(Drain Valve)
3. ชุดกรองความชื้น(Dehydrating Breather)
3.1 ตรวจสอบการเปลี่ยนสีของซิลิก้าเกล (Silica gel) จาก สีน้ำเงินเข้มเป็นสีชมพูไป 3/4 ของกระบอกกรองความชื้น (ควรแก้ไข)
3.2 ตรวจสอบระดับน้ำมันในถ้วยใต้กระบอกกรองความชื้นว่ามีอยู่ในระดับที่มาตรฐาน
3.3 ตรวจสอบซีลยางและน๊อตสกูรต้องไม่มีคราบน้ำมันซึมและซีลยางไม่แตกระแหง มีผิวเรียบ
3.4 ต้องดึงแผ่นอลูมิเนียมออกก่อนติดตั้งและจ่ายไฟ
4. การตรวจวัดค่า (Insulation Resistance) 2000 MW – 5000 MW (20 C)
1. H. V. – L.V. ต้องไม่ต่ำกว่า 1000 MW
2. H.V. – Ground ต้องไม่ต่ำกว่า 1000 MW
3. L.V. – Ground ต้องไม่ต่ำกว่า 1000 MW
5. บุชชิ่งแรงสูง – แรงต่ำ (Bushing)
5.1 ตรวจสภาพผิว(คราบน้ำมัน,รอยอาคท์(Arc),ครีบบิ่นแตก
5.2 ตรวจความสะอาดของบุชชิ่ง
5.3 ตรวจดูรอยรั่วซึมของคราบน้ำมัน ,สภาพซีลยาง (Seal)
5.4 ตรวจ Bolt & Nut ของบุชชิ่งแรงสูง-แรงต่ำ
6. ขั้วต่อสายไฟเข้า – ออก ด้านแรงสูงและแรงต่ำ (Terminal Connector H.V.,L.V.)
6.1 ขั้วต่อสายไฟเข้า – ออก ด้านแรงสูงและแรงต่ำ (Terminal Connector H.V.,L.V.)
6.2 ตรวจ ดูรอยอาคท์ (Arc) หรือ Overheat
6.3 ตรวจ Bolt & Nut ของ Terminal Connector ให้แน่น
6.4 ตรวจสอบความสะอาดและทา Compound เพื่อช่วยเคลือบคลุมรอยสัมผัสไว้ เป็นการกันความชื้นและอ๊อกซิเจนในอากาศ
7. ชุดปรับแรงดันไฟฟ้า ( Off Load Tap Changer)
7.1 ตรวจสภาพของ Handle และ Tap Changer ตรงล็อกหรือไม่
7.2 ตรวจสอบรอยรั่วซึมของน้ำมันและซีลยาง (Seal)
7.3 ตรวจสอบการอาร์ค (Arc) หรือเชื่อมติดของ Tap Changer โดยการหมุนไป – มา 4-5 ครั้ง
8. ที่วัดระดับน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า (ถ้ามี)
8.1 สังเกตการขยับตัวของเข็มวัดระดับ(ถ้ามี)
8.2 ตรวจดูระดับน้ำมันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (20°C ) หรือไม่
8.3 ตรวจขัน น๊อต สกูรให้แน่น
8.4 ตรวจสอบรอยรั่วซึมน้ำมันและซีลยาง (Seal)
8.5 ตรวจสอบ กระจก/พลาสติก ว่าแตกชำรุด หรือไม่
9. เทอร์โมมิเตอร์ (ถ้ามี)
9.1 เทอร์โมมิเตอร์ (ถ้ามี)
9.2 ตรวจสอบกระจก/พลาสติกหน้าปัดแตกชำรุดหรือไม่
9.3 ตรวจสอบรอยรั่วซึมคราบน้ำมัน
9.4 ตรวจสอบค่าที่วัดอุณหภูมิ Top oil เกินค่าที่กำหนดหรือไม่ (ไม่เกิน 60°C)
9.5 ตรวจสอบการทำงานของอุณหภูมิถูกต้องหรือไม่
10. อุปกรณ์ความดัน (Pressure Relief Device) (ถ้ามี)
10.1 ตรวจสอบรอยรั่วซึมคราบน้ำมัน
10.2 ความดันตั้ง (0.5 bar)
10.3 ระดับน้ำมันในท่อเติมเต็ม
11. บุชโฮลซ์รีเลย์ (Buchholz Relay) (ถ้ามี)
11.1 ตรวจสอบกระจก/หน้าปัดแตกชำรุด หรือไม่
11.2 ตรวจสอบมี Gas สะสมมากผิดปกติหรือไม่
11.3 ทดสอบการทำงาน
12. น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า
12.1 ทดสอบค่า Breakdown Voltage ตามมาตรฐาน ASTM หรือ IEC
12.2 ตรวจสอบสีของน้ำมัน
12.3 ตรวจสอบค่าความเป็นกรด,ความหนืด
12.4 ตรวจสอบสิ่งเจือปนในน้ำมัน
ข้อแนะนำสำหรับการบำรุงรักษาหม้อแปลง
- ควรตรวจสอบหม้อแปลงโดยตลอดทันทีที่มีการตรวจรับหม้อแปลงจากบริษัท
- ไม่ควรป้อนพลังงานไฟฟ้า (energized) แก่หม้อแปลง จนกว่าจะเติมน้ำมันถึงระดับที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการกระแทกหรือสั่นสะเทือนที่อาจจะเป็นอันตรายต่อโครงสร้างภายในระหว่างการโยกย้ายหรือขนส่ง
- ตรวจสอบบุชชิ่งและส่วนประกอบอื่นๆ ให้ติดแน่นก่อนที่จะนำไปใช้งาน
- การเติมน้ำมันหม้อแปลง พึงระมัดระวังมิให้มีความชื้นหรือสารอื่นใดเจือปนลงไปในหม้อแปลงได้
- ไม่ควรหิ้วยกหม้อแปลงที่บุชชิ่งหรืออุปกรณ์ที่ติดแน่นอยู่บนตัวหม้อแปลง ควรยกที่หูหิ้วของหม้อแปลงเท่านั้น
- ถ้าเป็นหม้อแปลงที่ใช้ในระบบจำหน่ายที่ติดตั้งอยู่กับเสาไฟฟ้า ควรยึดหม้อแปลงให้แน่นและอยู่ในแนวดิ่ง
- เมื่อทำการบำรุงรักษาชนิดป้องกัน (PM) ให้ทำการตรวจสอบที่บุชชิ่งทั้งหมด, ข้อต่อ, ปะเก็น, อุปกรณ์ส่งสัญญาณป้องกัน, สีที่ทาตัวถังและส่วนประกอบภายนอกทั้งหมดในเรื่องสนิม รอยกัดกร่อน หรือ มีรอยรั่วซึมตรวจเช็คระดับน้ำมันและทดสอบสภาพความเป็นฉนวนของน้ำมัน (การทดสอบความเป็นฉนวนของน้ำมันนี้ควรกระทำทุก 3-6 เดือนสำหรับหม้อแปลงขนาดใหญ่) แต่ถ้าเป็นหม้อแปลงขนาดเล็กให้กระทำทุกปี และเมื่อพบว่าน้ำมันมีค่าต่างไปจากมาตรฐานกำหนดให้ทำการกรองความบริสุทธิ์น้ำมันทันที
- ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวถังออกเพื่อตรวจสอบ เมื่อปิดฝาถังจะต้องปิดให้แน่นและตรวจเช็คความสมบูรณ์ของปะเก็นด้วย
- ถ้าหม้อแปลงหลายตัวต่อขนานกันไว้เพื่อช่วยกันจ่ายโหลด เวลาทำงานกับหม้อแปลงตัวใดตัวหนึ่งจะต้องคำนึงถึงอันตรายที่เกิดจากแรงดันไฟฟ้าที่ย้อนกลับด้วย จึงควรปลดตัวที่กำลังตรวจซ่อมอยู่นั้นออกทั้งทางด้านแรงสูงและแรงต่ำการตรวจสอบและบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นระบบการทำงานที่มีความสำคัญยิ่ง ช่างที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถและความชำนาญเป็นการเฉพาะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของวิศวกร มีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างและส่วนประกอบทั้งภายในและภายนอกของ หม้อแปลงรายละเอียดบนแผ่นป้ายของหม้อแปลง รวมทั้งชนิดของการตรวจสอบ และบำรุงรักษาของ หม้อแปลงทั้งแบบประจำวันและตามกำหนดเวลา ตลอดจนมีความสามารถในการใช้งานเครื่องมือวัดทางไฟฟ้า เช่น เมกเกอร์ วีตสโตนบริดจ์ เรโชมิเตอร์ และเครื่องมือวัดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ดี